วันอังคารที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2566

My Life #0.3 : การ์ดเกมและเกมออนไลน์

                    สมัยเด็กผมชอบเล่นเกมมาก ๆ เข้าร้านเกมแถวบ้านตั้งแต่สมัยป.2 เล่นเครื่อง Famicom เพราะราคาถูก ชั่วโมงละ 15 บาท แต่จะเล่นครั้งละ 5 บาท แล้วต่อเวลาเอา นาน ๆ ทีถึงจะเล่น Super Famicom เพราะราคาแพง พอถึงจุดนึงพ่อแม่ก็ซื้อ Super Famicom ให้ ทำให้ไปร้านเกมน้อยลง แต่การมาถึงของ Play Station ทำให้ผมไปร้านเกมบ่อยขึ้น ไม่ใช่ร้านแถวบ้านผมเอง แต่เป็นร้านแถวบ้านเพื่อนบ้าง แถวโรงเรียนบ้าง ในห้างบ้าง อันนั้นจะเป็นช่วงมัธยมละ ถ้าเล่นฟรีคือไปเล่นที่บ้านอากง เพราะบ้านอากงมีเครื่องเล่น Play Station

                   ช่วงราว ๆ ปี 2002 เกมออนไลน์เริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้น จำได้ว่าตีตลาดจนคนเล่นการ์ดเกมกันน้อยลง หันไปเล่นเกมออนไลน์กัน สมัยนั้นผมเล่นการ์ดเกมหลักๆอยู่ 2 ตัวคือ "Magic the Gathering" กับ "Summoner Master" จำได้ว่าร้านการ์ดเกมในห้างแถวบ้านผมทยอยปิดตัวลงจนเกือบหมด ร้านเกมออนไลน์ผุดขึ้นเต็มทั่วทุกหัวระแหง เกมดังๆคงหนีไม่พ้น "Ragnarok" กับ "Counter Strike" ผมเคยลองเล่น แต่เล่นไม่เป็น ไม่ใช่แนว พอร้านการ์ดเกมแถวบ้านไม่ค่อยมีแล้ว ผมก็เลิกเล่นการ์ดเกมไประยะนึง จำได้ว่าช่วงนั้นเริ่มมี Play Station 2 แล้ว แต่ผมไม่ได้เล่นเกมแบบนี้นับตั้งแต่ Play Station 2 ออก กล่าวคือเล่น Play Station 1 เป็นอันสุดท้าย จากนั้นก็เข้าสู่ยุคของการเล่นเกมออนไลน์

                   สักราว ๆ ปี 2005 เห็นจะได้ มีเกมออนไลน์เกมนึงเข้ามาตีตลาดในไทย ชื่อเกมว่า "PangYa" เป็นเกมตีกอล์ฟ แรก ๆ ผมก็เฉย ๆ ก่อนหน้านี้ผมมีเล่นเกมออนไลน์เกมนึงคือ "Yu-Gi-Oh! Online" ช่วงแรก ๆ มันเปิดให้เล่นฟรี พอเปลี่ยนระบบเป็นเสียเงินแบบบังคับเสียเงินทุกเกมที่เล่น ผมก็เลิกเล่น แล้วไอ้เกม PangYa ก็เข้ามาในช่วงนี้พอดี ผมเห็นว่าเล่นง่ายดีเลยเล่นขำ ๆ ไป ปรากฏว่าไม่ขำว่ะ แม่งติดเลย แต่ดีหน่อยที่ไม่ต้องเติมเกมก็เล่นได้ ก็เลยเล่น ๆ ไป แต่อย่างว่าแหละ พวกไอเท็มที่ดี ๆ ล้วนต้องใช้เงินจริง เป็นปกติของหลาย ๆ เกม ไม่เว้นแม้แต่เกมนี้ ผมจึงเติมซื้อไม้กอล์ฟที่ดีขึ้น แต่มันไม่จบง่าย ๆ หรอก พอเล่นไปเรื่อย ๆ มันก็จะออกไอเท็มใหม่ที่ดีกว่าขึ้นมา ทำให้ต้องเติมต่อไปไม่จบไม่สิ้น พอเล่นไปหลาย ๆ ปีเข้าก็พบว่าหมดไปหลายหมื่นกับเกมนี้กันเลยทีเดียว ด้วยความที่คอมพิวเตอร์ที่บ้านมีสเป็คค่อนข้างกาก ทำให้ไม่สามารถเล่นเกมได้ลื่น จึงทำให้ต้องเข้าร้านเกมเป็นประจำ และด้วยความที่ธุรกิจร้านเกมมันเฟื่องฟูมาก จึงต้องตั้งราคาแข่งกัน ใครคิดราคารายชั่วโมงถูกกว่า แถมมีโปรโมชั่นขายเป็นแพคเกจ เล่นครั้งละหลาย ๆ ชั่วโมง ซึ่งจะมีราคาถูกลงไปอีก ก็จะดึงดูดลูกค้าได้มากกว่า สมัยนั้นจำได้ว่าทั่ว ๆ ไปอยู่ที่ชั่วโมงละ 15-20 บาท แต่จะมีบางร้านบางย่านที่คิดชั่วโมงละ 10 บาท ขายเป็นแพคเกจ 10 ชั่วโมง 80 บาท หรือมีแพคเกจที่ถูกกว่านั้น ไม่รู้สมัยนี้มีร้านแบบนี้เหลืออยู่เท่าไหร่ และคิดค่าบริการประมาณไหนกัน สมัยนั้นผมเคยไปสิงร้านเกมแบบทั้งวันทั้งคืน นัดเล่นเกมกับเพื่อนสมัยเรียนแบบเล่นตั้งแต่ช่วงเย็นยันเช้าของอีกวัน 10 กว่าชั่วโมงเพื่อเก็บเลเวล ไม่กี่ปีต่อมา ผมได้ตัดสินใจซื้อคอมพิวเตอร์เครื่องใหม่ที่มีสเป็คแรงขึ้น แถมติดอินเทอร์เน็ตแบบไฮสปีดรายเดือน (เมื่อก่อนใช้เน็ตฟรีของ TOT เสียแค่ค่าโทรศัพท์ครั้งละ 3 บาท ต้องต่อใหม่ทุก ๆ 2 ชั่วโมง) ทำให้สามารถเล่นเกมที่บ้านได้ยาว ๆ ไม่ต้องเปลืองเงินไปเล่นเกมที่ร้านอีกต่อไป

                   หลังจากผมเริ่มเข้ามาเคลื่อนไหวการเมืองช่วงปี 2012 เป็นต้นมา ผมก็เล่นเกมน้อยลงจนเลิกเล่นไปในที่สุด คิด ๆ แล้วก็เสียดายเงินที่เติมไปเหมือนกัน แต่ก็คิดซะว่าซื้อความสุข ก็เหมือนไปกินข้าวร้านดี ๆ ไปกินบุฟเฟ่ต์ดี ๆ ซึ่งน่าจะหมดไปเยอะกว่าเติมเกมไม่รู้กี่เท่า ทั้งที่กินถูก ๆ ก็ได้ นั่นก็ซื้อความสุขไม่ใช่เหรอ งั้นก็ช่างแม่งเถอะ 55555

                   เท่าที่ผมสังเกต คนส่วนมากน่าจะนิยมเล่นเกมหลาย ๆ เกม แต่ผมไม่ ตลอดหลายปีที่ผ่านมาผมเล่นแค่เกมเดียวคือ PangYa นี่แหละ พอเลิกก็ไม่มีเกมเล่น ทำให้มาโฟกัสกับการเคลื่อนไหวทางการเมืองในนาม "วงทับทิมสยาม" มากขึ้น เรื่อยมาจนถึง "วงไฟเย็น"

                   ในช่วงก่อนจะมาเคลื่อนไหว ผมมีเล่นการ์ดเกม Summoner Master อยู่บ้าง เนื่องจากมีกลุ่มก๊วนเพื่อนที่เล่นด้วยกันที่ห้างแถวบ้าน มีจัดแข่งทุกสัปดาห์ มีของรางวัล ผมก็ไปร่วมแข่งตลอด ได้รางวัลเป็นประจำ ได้ที่ 1 ก็หลายครั้ง แต่ถึงจุดนึงที่ตัวเกมมันไม่สนุกแล้ว เพราะระบบรวมถึงการออกแบบการ์ดชุดใหม่ ๆ มันแย่เกินไป ผมจึงหันไปเล่น Magic the Gathering การ์ดเกมที่ผมรักที่สุดแทน พอถึงช่วงหลังรัฐประหารที่ไม่ค่อยได้กลับไทยบ่อย ๆ ก็เล่นน้อยลง แต่ผมคิดถึงมันมาก ๆ หาทางออกไม่ได้ เลยต้องหาเกมออนไลน์ที่เป็นแนวการ์ดเกมเล่น จึงได้มาเริ่มเล่นเกม "Hearthstone" ในเดือนกุมภาพันธ์ 2015 ในช่วงที่ผมอยู่ประเทศเพื่อนบ้าน

                   ผมรู้จักเกมนี้มาก่อนหน้านี้สักพัก เพราะเพื่อนที่เล่น Summoner Master ด้วยกันเคยเอามาเล่นให้ดู แต่ตอนนั้นผมเฉย ๆ เลยไม่ค่อยสนใจ พอต้องอยู่ในที่ห่างไกล แถมในประเทศเพื่อนบ้านก็ไม่มีใครเล่น Magic the Gathering ไม่มีร้านขายด้วย เลยต้องหาทางออกด้วยการเล่นเกมนี้แทน ซึ่งตอบโจทย์ความต้องการของผมได้ดีทีเดียว ผมลองเล่นแค่วันเดียวก็ติดแล้ว เพราะพื้นฐานเกมนี้มีความใกล้เคียง Magic the Gathering ถ้ามีพื้นมาก็เข้าใจระบบของเกมนี้ได้ไม่ยาก และเอาเข้าจริงแม้แต่คนไม่มีพื้นก็สามารถทำความเข้าใจได้ไม่ยากเลย เพราะเกมนี้ตัดความยุ่งยากที่มีใน Magic the Gathering ทิ้งไปเยอะทีเดียว คนออกแบบแม่งฉลาดชิบหาย โชคดีที่ผมพอมีเงินเก็บจากการทำงานประจำก่อนลาออกมาเคลื่อนไหวการเมืองกับวงไฟเย็นที่ประเทศเพื่อนบ้านอยู่มากพอสมควร จึงมีเงินเติมเกมแบบสบาย ๆ ทีแรกว่าจะไม่จริงจัง แต่เล่นไปสักพักคือเรียบร้อย ต้องจริงจังแล้วว่ะ

                   เกมนี้ผมถือว่าเป็นเกมที่ไม่ต้องเติมเยอะ เติมแค่ช่วงแรกก็เก่งได้ จากนั้นเล่นฟรียาว ๆ ได้เลย ถ้าบริหารเงินในเกม (ที่ไม่ใช่เงินจริง) ได้ ผมเติมแค่แอคเค้าท์หลัก เซิร์ฟเวอร์หลัก พอแล้ว นอกนั้นพวกรอง ๆ สายฟรีล้วน ๆ

                   เกมนี้มี community เป็นกลุ่มบน Facebook ซึ่งหลายคนรู้จักและเรียกผมว่า "อาจารย์หยาง" ซึ่งก็ไม่รู้ว่าทำไมเรียกอาจารย์ น่าจะเป็นการแสดงความชื่นชมนับถือล่ะมั้ง ส่วน "หยาง" นี่เป็นชื่อแอคเค้าท์ Facebook ส่วนตัวของผมเอง ทีแรกก็ปิดลับนะ แทบไม่ค่อยมีใครรู้ มีเพื่อนแค่หลักสิบ แต่หลังจากมีข่าวว่าผมโดนจับติดคุก แม่งกลายเป็นรู้กันหมดเลยว่าอาจารย์หยางตัวจริงคือใคร 555555 ผมค่อนข้างมีเอกลักษณ์ที่คนในกลุ่มจดจำได้คือ ความคลั่งไคล้ในเผ่า Murloc ซึ่งเป็นครึ่งคนครึ่งปลา แต่คนส่วนใหญ่จะเรียกมันว่า "กบ" และ quote สำคัญของผมที่เป็นมีม (meme) ในกลุ่มก็คือ "Murloc is the best." ช่วงแรก ๆ ผมเล่น Murloc เป็นหลัก พยายามผลักดัน Murloc เสมอมา แต่ช่วงหลัง ๆ ก็ไปเล่นอย่างอื่นซะเยอะ แต่ก็ไม่ทิ้ง Murloc ก็ยังคงใช้เล่นอยู่บ่อย ๆ ส่วนหนึ่งคือช่วงหลัง Murloc ไม่ค่อยเก่งแล้ว จะมีบางช่วงที่เป็นยุคทองของมัน ซึ่งผมก็รอคอยให้ยุคทองของมันกลับมาเสมอ จะได้ประกาศได้อย่างภาคภูมิอีกครั้งว่า Murloc is the best

                   ทุกวันนี้ผมยังคงเล่นเกมนี้อยู่ และเป็นเกมเดียวที่เล่น แม้จะมีเกมแนวนี้เกิดขึ้นตามมามากมาย มีช่วงสั้น ๆ ที่ผมไปเล่น MTG Arena ซึ่งเป็น Magic the Gathering แบบออนไลน์ เคยเติมเงินไปครั้งเดียว ประมาณร้อยกว่าบาทมั้ง แต่ผมไม่ชอบเล่น format ที่เป็น standard (Hearthstone ผมก็ไม่เล่น standard) ผมเลยหันมาเล่น Hearthstone เกมเดียวเหมือนเดิมจนถึงปัจจุบัน ที่จริงก็เคยคิดจะเลิกเล่นเกมนี้หลังได้รับการประกันตัวจากเรือนจำ แต่สุดท้ายก็เลิกไม่ได้ ถ้าต้องติดคุก 6 ปีตามที่ศาลชั้นต้นตัดสิน หลังจากออกมา ผมอาจจะเลิกเล่นก็ได้ เพราะตามไม่ทันแล้ว แต่พนันได้เลยว่าผมแม่งไม่เลิกหรอก