วันอังคารที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2562

My Life #1 : จุดเริ่มต้นของเส้นทางสายดนตรี

                    ในวัยเด็กผมแทบไม่ฟังเพลงตามสมัยนิยมเท่าไหร่ มีแต่ได้ยินได้ฟังจากที่คนอื่นเปิด หลายเพลงก็ได้ยินได้ฟังบ่อยจนชอบก็มี ยุคนั้นที่ดังมาก ๆ ก็คือ เบิร์ด ธงไชย แมคอินไตย์, อัสนี-วสันต์ โชติกุล, ไมโคร, ติ๊ก ชีโร่ ซึ่งเพลงจากศิลปินเหล่านี้เป็นเพลงที่ผมได้ยินได้ฟังบ่อยที่สุดในยุคนั้น เรียกได้ว่าบ่อยจนสามารถร้องตามได้แม้ไม่ได้ซื้อเทป เทปม้วนแรกที่แม่ซื้อให้คือ อัลบั้ม “Mr. Mos ไม่รักไม่ได้แล้ว” ของ “มอส ปฏิภาณ” ที่ต้องซื้อเพราะความจำเป็นต้องทำกิจกรรมที่โรงเรียน ซึ่งเพื่อนเลือกเพลง "เหลวไหล" ของ มอส ทำให้ต้องซื้อมาฟัง มาฝึกร้อง 

                    ผมเริ่มหันมาสนใจฟังเพลงในสมัยมัธยมต้น เริ่มจากการเอาเทปอัลบั้มรวมฮิตของเบิร์ด ธงไชย ของแม่มาฟังแล้วอิน และซื้อเทปอัลบั้ม​ "ธงไชย เซอร์วิส" ของ เบิร์ด ธงไชย มาฟัง ตอนนั้นกลายเป็นชอบเพลงของเบิร์ดมาก ต่อมาผมก็เริ่มฟังวิทยุบ้าง นอกเหนือจากการติดตามเพลงใหม่ ๆ จากการดูมิวสิควิดิโอทางทีวี คลื่นที่ผมชอบฟังเป็นพิเศษคือ V FM 104.5 (ภายหลังเป็น FaT Radio) และ Hot Wave 91.5 ส่วนคลื่นอื่น ๆ ก็ฟังบ้างเมื่อคลื่นหลัก ๆ เปิดเพลงน่าเบื่อ สมัยนั้นเริ่มหันมาชอบเพลง rock โดยวงที่จุดประกายวงแรกคือ "Loso" ก่อนหน้าที่จะฟังวิทยุนี่ผมดูทีวีเจอแต่เพลง pop ช่วงนั้นจะชอบพวก Raptor, The Next อะไรพวกนี้ ต่อมาผมก็หันไปฟังเพลง pop rock แทน เช่น Loso, Blackhead, Silly Fools, Smile Buffalo, แมว จิระศักดิ์ ปานพุ่ม, Fly, Y Not 7, Paradox, Moderndog, ป้าง นครินทร์ กิ่งศักดิ์ ฯลฯ ตามดูรายการ "Concert TV 5" และ "7 สีคอนเสิร์ต" บ่อยเท่าที่จะบ่อยได้ ช่วงนั้นก็เริ่มคิดอยากหัดเล่นกีต้าร์แล้ว มีลองเอากีต้าร์คลาสสิคของแม่มาดีดเล่นดู พอเล่น ๆ ไปก็รู้สึกว่าทำไมมันยากจังวะ จับยังไงก็ดีดออกมาบอดตลอด เจ็บนิ้วด้วย เล่นได้ไม่นานก็เลิก สรุปว่าเล่นไม่ได้ จึงทิ้งความคิดที่จะเล่นกีต้าร์ออกไปเลย

                    ต่อมาช่วงม.5 เทอม 2 ผมก็กลับมาหัดกีต้าร์แบบจริงจัง เนื่องจากมีพี่ที่รู้จักกันที่เชียงใหม่ แต่เป็นคนอุบลราชธานีย้ายมาอาศัยและทำงานที่กรุงเทพฯ แกชื่อ “อิ๋ว” เป็นคนที่ฟังเพลงใกล้เคียงกัน ชอบ Loso เหมือนกัน แกชวนไปเล่นกีต้าร์ที่ห้อง ผมก็นั่งฝึกโดยมีแกคอยแนะนำ ผมจะตีคอร์ดให้แกโซโล่ ช่วงแรก ๆ ผมยังจับคอร์ดทาบอย่างคอร์ด F ไม่ได้ ต้องจับคอร์ด Fmaj7 แทนตลอด ส่วนคอร์ด Bm หรือคอร์ดแนว ๆ นี้จะจับแบบไม่กดสายเบส เพลงไหนคอร์ดทาบเยอะเกินไปก็จะใช้วิธีเปลี่ยนคีย์เอา (key transposing) ผมรู้เทคนิคนี้โดยไม่ต้องเรียนหรือถามใครเลย ใช้เพียงแค่การสังเกตจากหนังสือเพลง และด้วยความที่ตัวเองจับคอร์ดทาบไม่ได้ เลยพยายามหาวิธีลักไก่เอา จากนั้นก็จับหลักได้เอง สมัยนั้นผมยังไม่รู้จักเครื่องมือที่เรียกว่า “คาโป้” (Capo)

                    ไม่กี่เดือนต่อมา ช่วงที่สายกีต้าร์เส้นที่ 4 ขาด ผมขี้เกียจไปซื้อสายมาใส่ จึงเล่นไปทั้งอย่างนั้น เล่นไปเล่นมาอีท่าไหนไม่รู้จับคอร์ดทาบได้ซะงั้น ไม่บอดด้วย จากนั้นจึงจับหลักได้เองว่าต้องจับยังไง สมัยนี้ดีหน่อยตรงที่มีคลิปสอนฟรีแบบออนไลน์เพียบ สมัยผมคือต้องไปเรียนในสถาบันสอนดนตรี ซึ่งราคาไม่ได้ถูกเลย ผมไม่อยากไปเรียนให้เปลืองเงิน จึงอาศัยครูพักลักจำ สังเกต ถามคนที่เก่งกว่า ไปจนถึงมั่วเอาเอง ซึ่งก็ทำแบบนั้นมาตลอดจนถึงปัจจุบัน จึงไม่เก่งเหมือนคนอื่น ๆ เขาเสียที

                    ต่อมาผมได้ตัดสินใจซื้อกีต้าร์โปร่งตัวแรก ยี่ห้อ Fina ราคาประมาณ 2000 บาทแถวบ้านหม้อ เสียดายกีต้าร์ตัวนี้อายุสั้นไปหน่อยแค่ 1 ปีก็เกิดอุบัติเหตุทำให้กีต้าร์คอหักจึงเก็บไว้ดูเล่น แต่ถึงอย่างนั้นกีต้าร์ตัวนี้ก็มีประวัติที่สามารถเล่าได้อยู่บ้าง อย่างแรกคือมีลายเซ็น "พี่ต้า Paradox" แม้จะเลือนลางไปตามกาลเวลา อย่างที่สองคือ "พี่อู Day Tripper" เคยใช้กีต้าร์ตัวนี้เล่นเพลงให้แฟนเพลงฟังหลังงานคาราโอเกะที่ FaT Radio จัดขึ้นที่สถาบันปรีดีฯ และที่สำคัญที่สุดคือเป็นกีต้าร์ที่ผมใช้อัดเทปอัลบั้ม “คว้าดาว” อัลบั้มรวมเดโมเพลงที่ผมแต่งไว้ในช่วงแรก ๆ ของการแต่งเพลงในชีวิต มีเพลงทั้งหมด 9 เพลงได้แก่ แค่ได้มอง, เธอ, ได้มั้ยเธอ, คว้าดาว, วันสดใส, ขอเพียงแค่เธอ, รักเธอ, แค่อยากรู้, และ คิดถึง (เพลง "รักเธอ" ผมไม่ได้แต่ง แต่อิ๋วเป็นคนแต่ง)

                    ผมแต่งเพลงครั้งแรกตั้งแต่ยังจับคอร์ดทาบไม่ได้ เพลงแรกที่แต่งคือ เพลง “แค่ได้มอง” ซึ่งเป็นเพลงแทร็คแรกในอัลบั้ม “คว้าดาว” โดยตอนแต่งใช้คอร์ด C Am F G ทั้ง ๆ ที่จับคอร์ด F ไม่ได้ เนื้อเพลงก็เขียนแบบโง่ ๆ เลยตามสไตล์คนที่แต่งเพลงไม่เป็น จากนั้นผมก็พยายามเขียนเพลงแต่งเพลงมาตลอดอย่างต่อเนื่อง เรียกได้ว่ามีเพลงใหม่ทุกเดือน อย่างน้อยเดือนละ 1 เพลง บางเดือนก็หลายเพลง จากนั้นผมก็เริ่มฝันอยากมีอัลบั้มเป็นของตัวเอง จึงสนองความบ้าของตัวเองด้วยการอัดเดโมเทปอัลบั้มคว้าดาวแล้วไปแจกให้เพื่อนฟัง รวมถึงเอากีต้าร์ไปโรงเรียนไปเล่นให้เพื่อนฟังสด ๆ ด้วย จนมีเพื่อนร่วมห้องบางคนเวลาเจอผมก็แซวผมด้วยท่อนแรกของเพลงแค่ได้มอง “แค่ฉัน...ได้มอง...หน้าเธอ...ก็สุขใจ”

                    วง Paradox จัดงาน Meeting ขึ้นครั้งแรกที่ร้านแห่งหนึ่งย่านสามย่าน สมัยนั้นเว็บยังเป็น http://www.geocities.com/tatarmax อยู่เลย ซึ่งต่อมาไม่นานได้เปลี่ยนเป็นเว็บ tatamag.com แฟนคลับที่เล่นในเว็บบอร์ดดังกล่าวน่าจะมีประมาณ 100 คน มีคนมางานมีตติ้งในวันนั้น 10 กว่าคน ในงานนั้นผมได้เอาเทปอัลบั้ม “คว้าดาว” ไปให้พี่ต้า Paradox ฟัง พี่ต้าฟังแล้วชมว่าใช้ได้เลยนะ อยากให้ทำต่อไป คำพูดพี่ต้าในตอนนั้นเป็นกำลังใจต่อผมเป็นอย่างมาก ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ผมก็ยังเห็นพี่ต้าพยายามผลักดันศิลปินหน้าใหม่ให้โลดแล่นในวงการเพลงอยู่ตลอด ทุกวันนี้เทปอัลบั้ม “คว้าดาว” ก็ยังคงอยู่ที่บ้าน แต่ไม่รู้เสียงข้างในจะยังเหมือนเดิมหรือเปล่า

                    หลังจากขึ้นม.6 ผมมีโอกาสไปดูคอนเสิร์ตหลายครั้ง ก่อนหน้านี้ไม่เคยมีโอกาสได้ไป เพราะพ่อแม่ไม่อนุญาตให้ไป รวมถึงห้ามกลับบ้านดึก แต่พอถึงจุดหนึ่งก็ต้องปล่อยในที่สุด หลังจากมีโอกาสแล้ว ผมก็ใช้มันอย่างเต็มที่ รวมถึงเริ่มเข้าผับ ไปค้างบ้านเพื่อน บางวันกลับถึงบ้านตอนเช้าของอีกวัน แต่ถึงอย่างนั้นด้วยความที่ผมยังเชื่อและถือปฏิบัติในลัทธิศาสนา รวมถึงกินมังสวิรัติ ผมจึงไม่ดื่มเหล้า สูบบุหรี่ และค่อนข้างเป็น “เด็กดี” หลังจากงาน Paradox Meeting ผมก็ได้มีโอกาสไปดูคอนเสิร์ตของวงอยู่บ่อย ๆ เรียกได้ว่าแทบทุกงาน (บ้ามากช่วงนั้น) ส่วนศิลปินอื่น ๆ ก็ไปดูบ้างเมื่อมีโอกาส สำหรับงานมิวสิคเฟสติวัลนี่ต้องเรียกว่าไม่พลาดเด็ดขาดเลย เพราะมีศิลปินมาแสดงสดจำนวนมาก ไปทีเดียวดูคุ้มเลย แถมมีโอกาสใกล้ชิดศิลปินอีกต่างหาก สมัยนั้นงานที่ต้องไปทุกปีเลยคืองาน “FaT Festival” เรียกว่าเป็นงานดูดเงินอย่างแท้จริง เพราะไปแต่ละครั้งผมต้องเสียเงินซื้อ CD จำนวนมากที่หาซื้อได้ยาก หรือไม่สามารถหาซื้อได้ตามร้านขาย CD ทั่วไป

                    ผมได้มีโอกาสฟอร์มวงดนตรีครั้งแรกเพื่อแสดงดนตรีที่งาน ๆ หนึ่งของโรงเรียนสมัยม.6 ซึ่งจัดขึ้นโดยสายมัธยม ผมเล่นตำแหน่งมือกีต้าร์ริทึ่มในวง “บุญล้อ” ซึ่งชื่อวงมาจากนามสกุลของนักร้องนำ นักร้องนำชื่อ “เอ๋” พ่วงตำแหน่งกีต้าร์ลี้ด มือเบสชื่อ “ติ๊บ” มือกลองชื่อ “แบงค์” (ความจริงแบงค์เล่นกีต้าร์เก่งกว่าทุกคนในวง และและเล่นกีต้าร์ในวงอื่น) นักร้องรับเชิญชื่อ “ปอนด์” เราซ้อมกันหลายวันที่ห้องซ้อมของเพื่อนร่วมห้องสมัยมัธยมต้น เป็นครั้งแรกที่ผมได้มีโอกาสเข้าห้องซ้อมดนตรี และจับกีต้าร์ไฟฟ้า ความรู้สึกตอนที่ได้เล่นกีต้าร์ไฟฟ้าครั้งแรกคือ จับง่ายกว่ากีต้าร์โปร่งเยอะเลย กีต้าร์ไฟฟ้าตัวนั้นเป็นยี่ห้อ Washburn แต่จำไม่ได้ว่ารุ่นไหน เป็นทรง Super Strat ทั่วไป มี humbucker 2 ตัว งานนี้เป็นงานเดียวที่ผมได้มีโอกาสแสดงดนตรีที่โรงเรียน ผมรู้สึกได้ในทันทีว่า ผมเริ่มเล่นกีต้าร์ช้าเกินไปจริง ๆ