ในวัยเด็กผมแทบไม่ฟังเพลงตามสมัยนิยมเท่าไหร่ มีแต่ได้ยินได้ฟังจากที่คนอื่นเปิด หลายเพลงก็ได้ยินได้ฟังบ่อยจนชอบก็มี ยุคนั้นที่ดังมาก ๆ ก็คือ เบิร์ด ธงไชย แมคอินไตย์, อัสนี-วสันต์ โชติกุล, ไมโคร, ติ๊ก ชีโร่ ซึ่งเพลงจากศิลปินเหล่านี้เป็นเพลงที่ผมได้ยินได้ฟังบ่อยที่สุดในยุคนั้น เรียกได้ว่าบ่อยจนสามารถร้องตามได้แม้ไม่ได้ซื้อเทป เทปม้วนแรกที่แม่ซื้อให้คือ อัลบั้ม “Mr. Mos ไม่รักไม่ได้แล้ว” ของ “มอส ปฏิภาณ” ที่ต้องซื้อเพราะความจำเป็นต้องทำกิจกรรมที่โรงเรียน ซึ่งเพื่อนเลือกเพลง "เหลวไหล" ของ มอส ทำให้ต้องซื้อมาฟัง มาฝึกร้อง
ผมเริ่มหันมาสนใจฟังเพลงในสมัยมัธยมต้น เริ่มจากการเอาเทปอัลบั้มรวมฮิตของเบิร์ด ธงไชย ของแม่มาฟังแล้วอิน และซื้อเทปอัลบั้ม "ธงไชย เซอร์วิส" ของ เบิร์ด ธงไชย มาฟัง ตอนนั้นกลายเป็นชอบเพลงของเบิร์ดมาก ต่อมาผมก็เริ่มฟังวิทยุบ้าง นอกเหนือจากการติดตามเพลงใหม่ ๆ จากการดูมิวสิควิดิโอทางทีวี คลื่นที่ผมชอบฟังเป็นพิเศษคือ V FM 104.5 (ภายหลังเป็น FaT Radio) และ Hot Wave 91.5 ส่วนคลื่นอื่น ๆ ก็ฟังบ้างเมื่อคลื่นหลัก ๆ เปิดเพลงน่าเบื่อ สมัยนั้นเริ่มหันมาชอบเพลง rock โดยวงที่จุดประกายวงแรกคือ "Loso" ก่อนหน้าที่จะฟังวิทยุนี่ผมดูทีวีเจอแต่เพลง pop ช่วงนั้นจะชอบพวก Raptor, The Next อะไรพวกนี้ ต่อมาผมก็หันไปฟังเพลง pop rock แทน เช่น Loso, Blackhead, Silly Fools, Smile Buffalo, แมว จิระศักดิ์ ปานพุ่ม, Fly, Y Not 7, Paradox, Moderndog, ป้าง นครินทร์ กิ่งศักดิ์ ฯลฯ ตามดูรายการ "Concert TV 5" และ "7 สีคอนเสิร์ต" บ่อยเท่าที่จะบ่อยได้ ช่วงนั้นก็เริ่มคิดอยากหัดเล่นกีต้าร์แล้ว มีลองเอากีต้าร์คลาสสิคของแม่มาดีดเล่นดู พอเล่น ๆ ไปก็รู้สึกว่าทำไมมันยากจังวะ จับยังไงก็ดีดออกมาบอดตลอด เจ็บนิ้วด้วย เล่นได้ไม่นานก็เลิก สรุปว่าเล่นไม่ได้ จึงทิ้งความคิดที่จะเล่นกีต้าร์ออกไปเลย
ต่อมาช่วงม.5 เทอม 2 ผมก็กลับมาหัดกีต้าร์แบบจริงจัง เนื่องจากมีพี่ที่รู้จักกันที่เชียงใหม่ แต่เป็นคนอุบลราชธานีย้ายมาอาศัยและทำงานที่กรุงเทพฯ แกชื่อ “อิ๋ว” เป็นคนที่ฟังเพลงใกล้เคียงกัน ชอบ Loso เหมือนกัน แกชวนไปเล่นกีต้าร์ที่ห้อง ผมก็นั่งฝึกโดยมีแกคอยแนะนำ ผมจะตีคอร์ดให้แกโซโล่ ช่วงแรก ๆ ผมยังจับคอร์ดทาบอย่างคอร์ด F ไม่ได้ ต้องจับคอร์ด Fmaj7 แทนตลอด ส่วนคอร์ด Bm หรือคอร์ดแนว ๆ นี้จะจับแบบไม่กดสายเบส เพลงไหนคอร์ดทาบเยอะเกินไปก็จะใช้วิธีเปลี่ยนคีย์เอา (key transposing) ผมรู้เทคนิคนี้โดยไม่ต้องเรียนหรือถามใครเลย ใช้เพียงแค่การสังเกตจากหนังสือเพลง และด้วยความที่ตัวเองจับคอร์ดทาบไม่ได้ เลยพยายามหาวิธีลักไก่เอา จากนั้นก็จับหลักได้เอง สมัยนั้นผมยังไม่รู้จักเครื่องมือที่เรียกว่า “คาโป้” (Capo)
ไม่กี่เดือนต่อมา ช่วงที่สายกีต้าร์เส้นที่ 4 ขาด ผมขี้เกียจไปซื้อสายมาใส่ จึงเล่นไปทั้งอย่างนั้น เล่นไปเล่นมาอีท่าไหนไม่รู้จับคอร์ดทาบได้ซะงั้น ไม่บอดด้วย จากนั้นจึงจับหลักได้เองว่าต้องจับยังไง สมัยนี้ดีหน่อยตรงที่มีคลิปสอนฟรีแบบออนไลน์เพียบ สมัยผมคือต้องไปเรียนในสถาบันสอนดนตรี ซึ่งราคาไม่ได้ถูกเลย ผมไม่อยากไปเรียนให้เปลืองเงิน จึงอาศัยครูพักลักจำ สังเกต ถามคนที่เก่งกว่า ไปจนถึงมั่วเอาเอง ซึ่งก็ทำแบบนั้นมาตลอดจนถึงปัจจุบัน จึงไม่เก่งเหมือนคนอื่น ๆ เขาเสียที
ต่อมาผมได้ตัดสินใจซื้อกีต้าร์โปร่งตัวแรก ยี่ห้อ Fina ราคาประมาณ 2000 บาทแถวบ้านหม้อ เสียดายกีต้าร์ตัวนี้อายุสั้นไปหน่อยแค่ 1 ปีก็เกิดอุบัติเหตุทำให้กีต้าร์คอหักจึงเก็บไว้ดูเล่น แต่ถึงอย่างนั้นกีต้าร์ตัวนี้ก็มีประวัติที่สามารถเล่าได้อยู่บ้าง อย่างแรกคือมีลายเซ็น "พี่ต้า Paradox" แม้จะเลือนลางไปตามกาลเวลา อย่างที่สองคือ "พี่อู Day Tripper" เคยใช้กีต้าร์ตัวนี้เล่นเพลงให้แฟนเพลงฟังหลังงานคาราโอเกะที่ FaT Radio จัดขึ้นที่สถาบันปรีดีฯ และที่สำคัญที่สุดคือเป็นกีต้าร์ที่ผมใช้อัดเทปอัลบั้ม “คว้าดาว” อัลบั้มรวมเดโมเพลงที่ผมแต่งไว้ในช่วงแรก ๆ ของการแต่งเพลงในชีวิต มีเพลงทั้งหมด 9 เพลงได้แก่ แค่ได้มอง, เธอ, ได้มั้ยเธอ, คว้าดาว, วันสดใส, ขอเพียงแค่เธอ, รักเธอ, แค่อยากรู้, และ คิดถึง (เพลง "รักเธอ" ผมไม่ได้แต่ง แต่อิ๋วเป็นคนแต่ง)
ผมแต่งเพลงครั้งแรกตั้งแต่ยังจับคอร์ดทาบไม่ได้ เพลงแรกที่แต่งคือ เพลง “แค่ได้มอง” ซึ่งเป็นเพลงแทร็คแรกในอัลบั้ม “คว้าดาว” โดยตอนแต่งใช้คอร์ด C Am F G ทั้ง ๆ ที่จับคอร์ด F ไม่ได้ เนื้อเพลงก็เขียนแบบโง่ ๆ เลยตามสไตล์คนที่แต่งเพลงไม่เป็น จากนั้นผมก็พยายามเขียนเพลงแต่งเพลงมาตลอดอย่างต่อเนื่อง เรียกได้ว่ามีเพลงใหม่ทุกเดือน อย่างน้อยเดือนละ 1 เพลง บางเดือนก็หลายเพลง จากนั้นผมก็เริ่มฝันอยากมีอัลบั้มเป็นของตัวเอง จึงสนองความบ้าของตัวเองด้วยการอัดเดโมเทปอัลบั้มคว้าดาวแล้วไปแจกให้เพื่อนฟัง รวมถึงเอากีต้าร์ไปโรงเรียนไปเล่นให้เพื่อนฟังสด ๆ ด้วย จนมีเพื่อนร่วมห้องบางคนเวลาเจอผมก็แซวผมด้วยท่อนแรกของเพลงแค่ได้มอง “แค่ฉัน...ได้มอง...หน้าเธอ...ก็สุขใจ”
วง Paradox จัดงาน Meeting ขึ้นครั้งแรกที่ร้านแห่งหนึ่งย่านสามย่าน สมัยนั้นเว็บยังเป็น http://www.geocities.com/tatarmax อยู่เลย ซึ่งต่อมาไม่นานได้เปลี่ยนเป็นเว็บ tatamag.com แฟนคลับที่เล่นในเว็บบอร์ดดังกล่าวน่าจะมีประมาณ 100 คน มีคนมางานมีตติ้งในวันนั้น 10 กว่าคน ในงานนั้นผมได้เอาเทปอัลบั้ม “คว้าดาว” ไปให้พี่ต้า Paradox ฟัง พี่ต้าฟังแล้วชมว่าใช้ได้เลยนะ อยากให้ทำต่อไป คำพูดพี่ต้าในตอนนั้นเป็นกำลังใจต่อผมเป็นอย่างมาก ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ผมก็ยังเห็นพี่ต้าพยายามผลักดันศิลปินหน้าใหม่ให้โลดแล่นในวงการเพลงอยู่ตลอด ทุกวันนี้เทปอัลบั้ม “คว้าดาว” ก็ยังคงอยู่ที่บ้าน แต่ไม่รู้เสียงข้างในจะยังเหมือนเดิมหรือเปล่า
หลังจากขึ้นม.6 ผมมีโอกาสไปดูคอนเสิร์ตหลายครั้ง ก่อนหน้านี้ไม่เคยมีโอกาสได้ไป เพราะพ่อแม่ไม่อนุญาตให้ไป รวมถึงห้ามกลับบ้านดึก แต่พอถึงจุดหนึ่งก็ต้องปล่อยในที่สุด หลังจากมีโอกาสแล้ว ผมก็ใช้มันอย่างเต็มที่ รวมถึงเริ่มเข้าผับ ไปค้างบ้านเพื่อน บางวันกลับถึงบ้านตอนเช้าของอีกวัน แต่ถึงอย่างนั้นด้วยความที่ผมยังเชื่อและถือปฏิบัติในลัทธิศาสนา รวมถึงกินมังสวิรัติ ผมจึงไม่ดื่มเหล้า สูบบุหรี่ และค่อนข้างเป็น “เด็กดี” หลังจากงาน Paradox Meeting ผมก็ได้มีโอกาสไปดูคอนเสิร์ตของวงอยู่บ่อย ๆ เรียกได้ว่าแทบทุกงาน (บ้ามากช่วงนั้น) ส่วนศิลปินอื่น ๆ ก็ไปดูบ้างเมื่อมีโอกาส สำหรับงานมิวสิคเฟสติวัลนี่ต้องเรียกว่าไม่พลาดเด็ดขาดเลย เพราะมีศิลปินมาแสดงสดจำนวนมาก ไปทีเดียวดูคุ้มเลย แถมมีโอกาสใกล้ชิดศิลปินอีกต่างหาก สมัยนั้นงานที่ต้องไปทุกปีเลยคืองาน “FaT Festival” เรียกว่าเป็นงานดูดเงินอย่างแท้จริง เพราะไปแต่ละครั้งผมต้องเสียเงินซื้อ CD จำนวนมากที่หาซื้อได้ยาก หรือไม่สามารถหาซื้อได้ตามร้านขาย CD ทั่วไป
ผมได้มีโอกาสฟอร์มวงดนตรีครั้งแรกเพื่อแสดงดนตรีที่งาน ๆ หนึ่งของโรงเรียนสมัยม.6 ซึ่งจัดขึ้นโดยสายมัธยม ผมเล่นตำแหน่งมือกีต้าร์ริทึ่มในวง “บุญล้อ” ซึ่งชื่อวงมาจากนามสกุลของนักร้องนำ นักร้องนำชื่อ “เอ๋” พ่วงตำแหน่งกีต้าร์ลี้ด มือเบสชื่อ “ติ๊บ” มือกลองชื่อ “แบงค์” (ความจริงแบงค์เล่นกีต้าร์เก่งกว่าทุกคนในวง และและเล่นกีต้าร์ในวงอื่น) นักร้องรับเชิญชื่อ “ปอนด์” เราซ้อมกันหลายวันที่ห้องซ้อมของเพื่อนร่วมห้องสมัยมัธยมต้น เป็นครั้งแรกที่ผมได้มีโอกาสเข้าห้องซ้อมดนตรี และจับกีต้าร์ไฟฟ้า ความรู้สึกตอนที่ได้เล่นกีต้าร์ไฟฟ้าครั้งแรกคือ จับง่ายกว่ากีต้าร์โปร่งเยอะเลย กีต้าร์ไฟฟ้าตัวนั้นเป็นยี่ห้อ Washburn แต่จำไม่ได้ว่ารุ่นไหน เป็นทรง Super Strat ทั่วไป มี humbucker 2 ตัว งานนี้เป็นงานเดียวที่ผมได้มีโอกาสแสดงดนตรีที่โรงเรียน ผมรู้สึกได้ในทันทีว่า ผมเริ่มเล่นกีต้าร์ช้าเกินไปจริง ๆ